2019 Ferrari Portofino: แกรนด์ทัวเรอร์สำหรับทุกฤดูกาล
2019 Ferrari Portofino คือรถแกรนด์ทัวเรอร์ที่เป็นแก่นแท้ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบทั้งสมรรถนะที่เร้าใจและความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในฐานะผู้สืบทอดจากรุ่น California T มันได้ปรับปรุงแนวทางของ Ferrari ให้กลายเป็นรถเปิดประทุนที่ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังแต่สามารถควบคุมได้ง่าย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนถนนเลียบชายฝั่งหรือถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยวได้อย่างลงตัว
หัวใจสำคัญของ Portofino คือเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 3.9 ลิตรที่ทรงพลัง ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 592 แรงม้า และแรงบิด 561 ปอนด์-ฟุต ระบบขับเคลื่อนนี้จับคู่กับเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีดที่ตอบสนองได้ดี สามารถพาตัวรถพุ่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 320 กม./ชม. เมื่อพับหลังคาแข็งลง เสียงเครื่องยนต์ที่หนักแน่นและก้องกังวานจะกลายเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์การขับขี่ มอบความรู้สึกเร้าใจที่ไม่มีใครเหมือนของ Ferrari
การออกแบบของ Portofino มีทั้งความหรูหราและดูบึกบึน เส้นสายที่โดดเด่นและด้านหน้าที่ดุดันทำให้มีภาพลักษณ์ที่ซับซ้อน ในขณะที่หลังคาแข็งแบบพับได้ที่ชาญฉลาดสามารถเปลี่ยนรถจากคูเป้ที่เพรียวบางให้กลายเป็นรถเปิดประทุนที่สวยงามได้ในเวลาเพียง 14 วินาที ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานที่หรูหราของงานฝีมือ Ferrari แบบคลาสสิกและเทคโนโลยีสมัยใหม่ การจัดที่นั่งแบบ 2+2 แม้ว่าพื้นที่ด้านหลังจะมีจำกัดมาก แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสายเลือดแกรนด์ทัวเรอร์ และหนังคุณภาพสูงกับอลูมิเนียมตกแต่งก็สร้างบรรยากาศที่ทั้งสบายและสปอร์ต
ในด้านเทคโนโลยี Portofino มาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครันสำหรับรถ Ferrari ยุคใหม่ มีระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ที่ควบคุมการนำทาง เสียง และฟังก์ชันโทรศัพท์ รวมถึงจอแสดงผล TFT คู่ในแผงหน้าปัด นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมระบบแชสซีส์และการควบคุมขั้นสูง รวมถึงโช้คอัพแม่เหล็กไฟฟ้า (SCM-E) สำหรับช่วงล่างแบบปรับได้ และเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Diff 3) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและความเสถียร ทำให้มั่นใจได้ว่าพลังมหาศาลของรถจะอยู่ภายใต้การควบคุมเสมอ
ท้ายที่สุดแล้ว 2019 Portofino คือรถที่ผสานสองโลกเข้าด้วยกันอย่างงดงาม มันคือ Ferrari ที่แท้จริงที่มีหัวใจของสมรรถนะที่บริสุทธิ์ แต่ก็มีระดับของความประณีตและการใช้งานที่ทำให้มันเป็นรถที่น่าเพลิดเพลินอย่างแท้จริงสำหรับทุกโอกาส มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของ Ferrari ในการสร้างสรรค์รถที่ไม่เพียงแต่น่าตื่นเต้นในการขับขี่ แต่ยังสะดวกสบายอย่างน่าทึ่งในการเป็นเจ้าของอีกด้วย